คำสั่งอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ห้ามผู้ใดเข้า-ออก ชุมชนป้อม 6 หาดใหญ่ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจาก เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. 2564 ถึง 25 มิ.ย. 2564
ด้วยสถานการณ์ COVID-19 ในพื้นที่จังหวัดสงขลาพบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและจากการตรวจในเชิงรุกในเขตชุมชนป้อม 6พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 18 ราย โดยพบในพื้นที่ชุมชนที่มีครัวเรือนอยู่แน่นหนาซึ่งง่ายต่อการแพร่ระบาด และอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดไปยังพื้นที่อื่นๆในวงกว้างจนยากต่อการควบคุมโรคได้.ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการควบคุมโรคเป็นไปตาม พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการออกมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19
มาตรการการควบคุมฯ ดังนี้
1. ห้ามผู้ใดเข้าไปหรือออกจากชุมชนป้อม 6เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
2. ให้เทศบาลนครหาดใหญ่ พิจารณา ดังนี้
- 2.1 จัดให้มีการปิดกั้นสถานที่ที่ถูกห้ามผู้ใดเข้าไปหรือออกจากชุมชนป้อม 6 ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยใช้สิ่งกีดขวาง ลวดหนามหีบเพลง หรือสิ่งอื่นใด ปิดช่องทางเข้าออก หรือบริเวณโดยรอบของชุมชน
- 2.2 ประสานและบูรณาการการปฏิบัติระหว่างฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ เพื่อตรวจตราหรือแต่งตั้งเวรรักษาการณ์ชุมชนที่ถูกห้ามผู้ใดเข้า-ออก รวมทั้งให้ประสานฝ่ายสาธารณสุข หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเฝ้าระวัง ติดตาม และดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด
- 2.3 เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ชุมชนที่ถูกห้ามผู้ใดเข้าไปหรือออก หากสถานการณ์ของโรคคลี่คลายลงหรือยังมีการแพร่ระบาดอยู่ ให้เสนอต่อคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่ออำเภอหาดใหญ่ (ศปก.อ.หาดใหญ่) เพื่อพิจารณาเปลี่ยนแปลงคำสั่งต่อไป
- 2.4 ปฏิบัติการอื่นๆในส่วนที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ได้รับมอบหมาย อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อผลประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้งแย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ มีความผิดมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
