อีกหนึ่งพืชที่มีความสำคัญสำหรับการดูแลสุขภาพ ก็คือเมล็ดเจีย ประโยชน์ที่มีมากกว่ารูปร่างเล็ก ๆ ของมัน เพราะจริง ๆ แล้วเมล็ดเจียให้พลังงานเยอะมาก ช่วยรักษารูปร่างและยังเป็นส่วนผสมหนึ่งที่อยู่ในเมนูสุขภาพอีกด้วย ไปดูกันเลยว่าเมล็ดเจีย มีประโยชน์อย่างไรบ้าง และต้องทานอย่างไรให้ถูกวิธี
เมล็ดเจีย เป็นพืชที่ถูกจัดอยู่ในตระกูลมิ้นต์ และใบกะเพรา เป็นพืชที่อยู่ในตอนกลางและตอนใต้ของเม็กซิโก มีอายุมากกว่า 3,000 ปี ในการเติบโต ปัจจุบัน เมล็ดเจียจัดอยู่ในกลุ่ม Super food เนื่องจากได้รับความนิยมทั่วโลก เพราะมีงานวิจัยออกมาว่าเมล็ดเจียอุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ที่ให้พลังงานสูง และมีแร่ธาตุอย่างแคลเซียม ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ซิงค์ ไฟเบอร์ และวิตามินบี 1 – 6 ช่วยในเรื่องการลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพอีกด้วย โดยทานคู่กับอาหารคาว ขนมหวานหรือเครื่องดื่มก็ได้
ประโยชน์เมล็ดเจีย
☑ เมล็ดเจีย มีสารอาหารอย่างโอเมก้า ช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง
☑ ป้องกันโรคหัวใจ รักษาความดันโลหิตสูง และหลอดเลือดอุดตัน
☑ บำรุงระบบประสาทและสมอง ช่วยให้ความจำดี
☑ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
☑ ใครที่ทานโซเดียมจนตัวบวม รับประทานเมล็ดเจีย เพื่อลดอาการบวมของร่างกาย
☑ มีไฟเบอร์ส่วนช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร และดีท็อกซ์
☑ มีแคลเซียมในปริมาณที่มากกว่าพบในนม เสริมสร้างกระดูกและฟัน ช่วยป้องกันการเป็นโรคกระดูกพรุน
☑ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ป้องกันการติดเชื้อจากบาดแผล
☑ ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน โดยเมล็ดเจียจะเข้าไปดูดซับน้ำในร่างกาย ทำให้พองตัวขึ้น จึงรู้สึกอิ่มเร็ว
☑ นักกีฬาสามารถทานเมล็ดเจียได้ ช่วยในการรักษาภาวะขาดน้ำให้สมดุล การเสียเงื่อนั่นเอง
☑ มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอวัย ช่วยผลัดเซลล์ผิว เพิ่มความชุ่มชื้นในผิว
☑ ช่วยรักษาระดับฮอร์โมน และผลิตเซโรโทนิน ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น
เมล็ดเจีย กับกระบวนการลดน้ำหนัก
เมล็ดเจีย ประโยชน์เยอะแยะมาก แต่ที่ผู้คนนิยมทาน เพราะเมล็ดเจียมีเส้นใยอาหารและกรดอัลฟาลีโนเลนิก มีส่วนช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ลดคอเลสตอรอล โดยมีการทดลองให้ชายหญิงกลุ่มหนึ่ง ที่มีภาวะอ้วน รับประทานเมล็ดเจียในมื้ออาหาร นานถึง 10 สัปดาห์ พบว่าเมล็ดเจียช่วยให้ร่างกายมีองค์ประกอบร่างกายหรือดัชนีมวลกายที่ดีขึ้น ต่อมาพบว่า ชายหญิงมีรอบเอวที่เล็กลง รวมถึงระดับคอเลสตอรอลลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ทานเมล็ดเจียนั้น ช่วยลดความดันโลหิต และลดระดับโปรตีนที่มีการตอบสนองการอักเสบในร่างกาย และช่วยละลายลิ่มเลือด หรือการอุดตันของหลอดเลือดให้กลับมาทำงานเป็นปกติ
เมล็ดเจีย ทานคู่กับอะไรดี?
- เมล็ดเจียแห้งโรยบนสลัด
- เมล็ดเจียแห้งโรยบนคุกกี้หรือขนมปัง
- เมล็ดเจียสามารถผสมน้ำทานได้ไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่านมน้ำเต้าหู้ชากาแฟน้ำผลไม้โดยใส่เพียงแค่ 1ช้อนโต๊ะเท่านั้น
- ทานแบบน้ำข้นเช่นเนื้อเจลหรือวุ้นโดยใส่ในโยเกิร์ต , เวย์โปรตีนหรือโปรตีนเชคและน้ำปั่น Smoothie
- เมล็ดเจียสามารถทานได้ทั้งระหว่างวันระหว่างมื้อก่อนหรือในมื้ออาหารก็ได้แต่สำหรับใครที่ลดน้ำหนักแนะนำให้ทานมื้อเย็นจะช่วยให้ทานได้น้อยลง
- ควรรับประทานเมล็ดเจียวันละไม่เกิน 2 ช้อนโต๊ะ
กลุ่มไหนไม่ควรรับประทานเมล็ดเจีย
❌ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคกระเพาะและลำไส้
❌ ผู้ที่แพ้โปรตีนในธัญพืช หรือกลูเตน
❌ ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาแอสไพริน
❌ ผู้ที่เพิ่งทำศัลยกรรมมา
❌ ผู้ที่มีโรคความดันโลหิตต่ำ
ข้อควรระวังในการรับประทานเมล็ดเจีย
👉 ผู้ชายไม่ควรรับประทานเมล็ดเจียในปริมาณที่มากเกินไป เพราะมีส่วนต่อการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
👉 ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์อยู่ไม่ควรรับประทาน
👉 รับประทานมากเกินไปจะทำให้ท้องอืด ท้องผูก ควรทานในปริมาณน้อย หรือพอเหมาะ
👉 ใครที่ขับถ่ายยาก มีปัญหาท้องผูก แนะนำให้ทานเมล็ดเจียผสมน้ำเท่านั้น
👉 ไม่ควรรับประทานร่วมกับวิตามินบี 17 ในระยะเวลาที่นานเกินไป เพราะจะทำให้เกิดสารมะเร็งได้
ซูเปอร์ฟู้ดอย่าง เมล็ดเจีย ประโยชน์ต่อร่างกายเยอะจริง ๆ ใครที่อยากลดความอ้วนหรือลดน้ำหนัก เมล็ดเจียเหมาะกับคุณมาก แต่ต้องทานอย่างถูกวิธีและควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์