บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทไบออนเทคได้ประกาศลงนามสัญญาร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในการจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 20 ล้านโดสสำหรับปี 2564 ให้กับประเทศไทย โดยมีแผนกำหนดการส่งมอบในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ การลงนามดังกล่าว ได้รับการยืนยันจากแถลงการณ์ของบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในวันที่ 20 ก.ค. แต่บริษัทไม่ได้เปิดเผยราคาและมูลค่าการซื้อขาย โดยระบุเพียงว่ามีข้อกำหนดเป็นไปตามช่วงเวลาในการส่งมอบและจำนวนโดสที่สั่ง เพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนแบบมีเงื่อนไขจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ไฟเซอร์และไบออนเทคตั้งเป้าการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ได้ราว 3 พันล้านโดสทั่วโลกภายในปี พ.ศ. 2564 โดยได้ทำการปรับปรุงพัฒนากระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ ในการผลิตอย่างต่อเนื่องและขยายกำลังการผลิตที่มีอยู่ขณะนี้ รวมถึงการเพิ่มผู้ผลิตและคู่สัญญารายใหม่ในอนาคต
สำหรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบออนเทคได้รับการพัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์และไบออนเทคโดยเป็นเทคโนโลยี mRNA ที่ไบออนเทคเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์และเป็นผู้ได้รับอนุญาตทางการตลาดในสหภาพยุโรปและยังเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้ในภาวะฉุกเฉินหรือเทียบเท่าในประเทศสหรัฐอเมริกา (ร่วมกับไฟเซอร์) ประเทศแคนาดาและประเทศอื่น ๆ ทั้งนี้ เป็นไปตามแผนที่ได้กำหนดไว้ก่อนหน้าในการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนสำหรับการเป็นผู้รับอนุญาตทางการตลาดเต็มรูปแบบในประเทศเหล่านั้นด้าน ชอง มาเร็ท หัวหน้าฝ่ายธุรกิจและฝ่ายพาณิชย์ บริษัท ไบออนเทค กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ไว้วางใจในความสามารถของการพัฒนาวัคซีนที่จะช่วยในการรับมือกับโรคระบาดของโลกในครั้งนี้
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 ก.ค. นพ. โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าหลังจากลงนามในสัญญาการสั่งซื้อล็อตแรก 20 ล้านโดสเรียบร้อยแล้ว ทางการไทยจะเจรจาขอซื้อวัคซีนของไฟเซอร์เพิ่มอีก 50 ล้านโดส
และ วันที่ 29 ก.ค. นี้ วัคซีนของไฟเซอร์ที่รัฐบาลสหรัฐฯ บริจาคให้ไทยจำนวน 1.5 ล้านโดสมีกำหนดมาถึงไทย ซึ่งจะเร่งฉีดให้พื้นที่ระบาดหนักอย่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งเป็นวัคซีนกระตุ้นภูมิ (booster dose) ให้บุคลากรทางการแพทย์