นพ.อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ได้กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้จัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และได้ผ่านการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรค ป้องกันการติดเชื้อ และหากติดเชื้อจะช่วยลดอาการรุนแรงของโรค ลดการเสียชีวิต และยังเป็นลดการแพร่เชื้อ โดยสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง มีการจัดระบบการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้รับบริการ ดำเนินการภายใต้ 8 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การคัดกรองวัดไข้ ล้างมือก่อน เข้ารับบริการ และลงทะเบียนเพื่อทำบัตร 2) ชั่งน้ำหนัก และวัดความดันโลหิต 3) คัดกรอง ซักประวัติ ประเมินความเสี่ยง และลงนามในใบยินยอมการรับวัคซีน 4) รอการฉีดวัคซีน 5) เข้ารับการฉีดวัคซีน 6) นั่งพักสังเกตอาการ 30 นาที โดยมีการจัดเตรียมห้องปฐมพยาบาล และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้พร้อม และสแกน Line Official Account “หมอพร้อม” 7) รับการตรวจสอบอาการก่อนกลับ พร้อมรับเอกสารการปฏิบัติตัวหลังการฉีดวัคซีน และติดตามประเมินผลความครอบคลุมการ ฉีดวัคซีน และอาการที่ไม่พึงประสงค์ด้วย Line Official Account “หมอพร้อม” โดยจะมีการติดตามหลังฉีด 1 วัน , 7 วัน , 30 วัน พร้อมแจ้งนัดหมายฉีดวัคซีน ฯ ครั้งที่ 2 และรับเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนต่อไป
สำหรับ อาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีนโดยทั่วไปอาจจะพบได้ 2 ระดับ คือ อาการไม่รุนแรง ได้แก่ ไข้ต่ำ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย และปวดบริเวณที่ฉีด อาจจะมีอาการชาเป็นบางส่วนของร่างกาย ซึ่งอาการเพียงเล็กน้อยเหล่านี้จะหายได้ภายใน 1-2 วัน ส่วนอาการรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น พบได้น้อยมาก ได้แก่ ไข้สูง แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ปวดศีรษะรุนแรง ปากเบี้ยว กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีจุดเลือดออกจำนวนมาก ผื่นขึ้นทั้งตัว อาเจียนมากกว่า 5 ครั้ง ชัก และหมดสติ หากมีอาการขณะเฝ้าระวังอาการหลังฉีด 30 นาที ขอให้รีบแจ้งแพทย์/พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ที่สังเกตอาการทันที แต่หากกลับบ้านแล้วเกิดอาการดังกล่าวขอให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านโดยเร็ว หรือโทรสายด่วน 1669 ทั้งนี้ อาการแทรกซ้อนรุนแรงจากการฉีดวัคซีนโควิด -19 โอกาสเกิดขึ้นประมาณ 0.0004 % หรือ 4 คนใน 1,000,000 คน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2564 เป้นต้นไปประเทศไทยเปิดการลงทะเบียนการฉีดวัคซีนในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง ,โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตเรื้อรังระยะ 5 , โรคหลอดเลือดสมอง ,โรคมะเร็งที่อยู่ระหว่างเคมีบำบัด รังสีบำบัด ภูมิคุ้มกันบำบัด ,โรคเบาหวาน และโรคอ้วนทีมีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัมหรือค่าดัชนีมวลกาย (BMT) มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร โดยประชาชนสามารถลงทะเบียนรับวัคซีนผ่าน Line Official Account “หมอพร้อม” หรือโรงพยาบาลใกล้บ้านที่มีประวัติการรักษา อสม. หรือ รพ.สต.ในพื้นที่ โดยสถานบริการสาธารณสุขสงขลาจะเริ่มฉีดในกลุ่มดังกล่าวตั้งแต่ 7 มิถุนายนเป็นต้นไป สำหรับประชาชนทั่วไป อายุ 18 – 59 ปี จะเริ่มเปิดลงทะเบียนฉีดวัคซีนเดือนกรกฎาคม 2564 และเริ่มฉีดเดือนสิงหาคม 2564
นพ.อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล ได้กล่าวย้ำว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจต่อป ประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิด -19 ที่รัฐบาลจัดหาให้ประชาชน ทั้งนี้ หน่วยงาน/สถานบริการสาธารณสุขได้จัดระบบการฉีดวัคซีนและการเฝ้าระวังและติดตามอาการหลังรับวัคซีนป้องกันโควิด 19 แม้ว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด -19 จะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยเสริมการป้องกันโรค แต่การป้องกันตนเองที่ดีที่สุดตามมาตรการ D-M-H-T-T-A (Distancing , Mask Waring , Hand Washing , Testing ,Temperature ,Application Thaichana ) อย่างต่อเนื่องคือ รักษาระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 2 เมตรหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัด , สวมหน้ากากเมื่อออกจากบ้าน หรือทำกิจกรรมนอกบ้าน , หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ , ตรวจวัดอุณหภูมิ , ตรวจหาเชื้อโควิด – 19 และลงทะเบียนด้วยแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ทุกครั้งเมื่อไปใช้บริการร้านค้าหรือสถานประกอบการต่าง ๆ , ใช้แอปพลิเคชันหมอชนะไปประเมินตนเองว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422 หรือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา โทร. 093 – 5766411 , 061 – 1739042 (ในวันและเวลาราชการ)