เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รศ.นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ นพ.กิตติพงศ์ เรียบร้อย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และบุคลากรคณะแพทยศาสตร์ ได้ร่วมให้กำลังใจในการส่งทีมแพทย์ พยาบาล จำนวน 10 คน นำทีมโดย ผศ. นพ.เทอดพงศ์ ทองศรีราช รองคณบดีฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ คณะแพทยศาสตร์ รวมถึงเจ้าหน้าที่พยาบาลที่เคยปฏิบัติหน้าที่ ณ ส่วนขยายโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพื่อผู้ป่วยโควิด-19 ภายในศูนย์บริบาลผู้สูงอายุ : องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และศูนย์บ่มเพาะคนดี : มูลนิธิสวนประวัติศาสตร์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติงาน ในการดูแลผู้ป่วยโควิด – 19 ณ โรงพยาบาลบุษราคัม โรงพยาบาลสนามในพื้นที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ระหว่างวันที่ 13 พฤษภาคม – 15 มิถุนายน 2564

ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า การเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ของทีมแพทย์ และพยาบาล ในครั้งนี้ นับเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในยามที่เกิดวิกฤต โดยเฉพาะในภาวะที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมีผู้ป่วยจำนวนมาก ทั้งผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย และผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ ทำให้โรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ต้องทำงานกันอย่างหนัก ดังนั้น การไปทำหน้าที่ดังกล่าว นับว่าเป็นการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ด้วยกัน และที่สำคัญเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่กำลังเจ็บป่วย ให้ได้รับการดูแลรักษาที่ดี ดังปณิธานที่ชาวสงขลานครินทร์ ยึดถือมาตลอดว่า “ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง”

ผศ. นพ.เทอดพงศ์ ทองศรีราช รองคณบดีฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ กล่าวว่า ในนามแพทย์และพยาบาล อาสา พร้อมที่จะช่วยจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ณ โรงพยาบาลบุษราคัม เมืองทองธานี กรุงเทพฯ ในการดูแล ผู้ป่วย 3,000-5,000 คน ด้วยประสบการณ์การทำโรงพยาบาลสนาม ที่สวนประวัติศาสตร์พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลามาแล้ว และขอปฏิญาณว่าจะปฎิบัติหน้าที่ อย่างเต็มที่ ให้สมกับลูกพระบิดา และไปในนามของสงขลานครินทร์

รศ. นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า ทีมงานไปด้วยจิตอาสา ทุกคนเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ โดยที่ผ่านมานับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 รอบล่าสุด คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ดำเนินงานทั้งในเชิงรับและเชิงรุก เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วย ซึ่งในเชิงรับจะเป็นการดูแล บริหารจัดการผู้ป่วยเดิมของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ให้ผู้ป่วยสามารถรับยาทางไปรษณีย์ แทนการมาโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการคงที่ แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการฉุกเฉิน หรืออาการหนัก สามารถติดต่อห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อลดอัตราความเสี่ยงของผู้ป่วยในของโรงพยาบาลฯ




